เกลือแร่สำคัญกับนักวิ่งแค่ไหน

Healthy Content

เกลือแร่สำคัญกับนักวิ่งแค่ไหน

เกลือแร่สำคัญกับนักวิ่งแค่ไหน ?
หลายครั้งที่เราเห็นนักวิ่งตามงานต่างๆ ประสบกับปัญหาภาวะโซเดียมในเลือดต่ำอย่างรุนแรง ทำให้เกิดภาวะหมดสติหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ซึ่งนักวิ่งทุกคนคงไม่อยากเกิดภาวะนี้กับตัวเองเป็นแน่แท้ แล้วภาวะโซเดียมในเลือดต่ำอย่างรุนแรง (Hyponatremia) เกิดขึ้นได้อย่างไร? และเราจะป้องกันได้หรือไม่?

แน่นอนว่าเมื่อเราวิ่งหรือออกกำลังกายย่อมมีเหงื่อ และส่วนประกอบของเหงื่อส่วนใหญ่เป็นน้ำและมีเกลือแร่อยู่บ้าง เกลือแร่ที่มากที่สุดก็คือโซเดียม โดยมีความเข้มข้นประมาณ 0.9 กรัม/ลิตร และยังพบว่าเหงื่อที่ออกจากการวิ่งออกกำลังกายจะมีความเข้มข้นเกลือโซเดียมสูงนี้อีกประมาณ 46% นักวิ่งจะสูญเสียเกลือโซเดียมประมาณ 2-10 กรัมต่อการออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะนักวิ่งสาย endurance ที่เกิน 5 ชั่วโมง จะสูญเสียเกลือโซเดียมมากกว่า 5 – 30 กรัมเลยทีเดียว

อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) จะสัมพันธ์กับความรุนแรงของระดับโซเดียมในเลือด โดยเรียงลำดับอาการดังนี้
– คลื่นไส้อาเจียน
– ปวดศีรษะ
– สับสน
– รู้สึกหมดพลัง ร่างกายอ่อนล้า
– กระสับกระส่าย
– กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกร็ง หรือตะคริว
– ชักและหมดสติโคม่า

ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำขณะวิ่ง ได้แก่
– ผู้ที่กินน้ำเปล่าชดเชยการเสียเหงื่อเพียงอย่างเดียว
– นักวิ่งที่วิ่งนานกว่า 4 ชั่วโมง
– นักวิ่งที่วิ่งเพซช้าจะมีโอกาสเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำบ่อยกว่านักวิ่งเพซเร็ว เพราะเพชเร็วมีโอกาสกินน้ำกินบ่อยกว่า

เพราะฉะนั้นเมื่อเราเสียเหงื่อจากการวิ่งร่างกายจะสูญเสียน้ำในสัดส่วนที่สูงกว่าการสูญเสียโซเดียม เราต้องกินน้ำชดเชยเป็นหลัก แล้วเสริมด้วยการกินเกลือโซเดียมชดเชยตามมา เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ

นพ.ณัฏฐธนิน เศรษฐวนิชย์

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบทความ